สาระดี ๆ ที่คนรักรถควรอ่าน วันนี้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจและควรศึกษาไว้ สาระที่ว่านี่คือ โช๊คอัพเสื่อมสภาพ หลายคนไม่เคยสังเกตหรือเคยเช็คสภาพด้วยตัวเองกว่าจะรู้กันก็ต่อเมื่อนำรถเช็คสภาพประจำปีหรือบางคนแย่กว่านั้นคือไม่รู้เรื่องเลยโดนช่างหลอกให้เปลี่ยนดื้อๆก็มี ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำการเช็คสภาพโช๊คด้วยตัวเองกันในเบื้องต้น
วิธีการเช็คอาการเสียของโช๊คด้วยตัวเอง
1.สังเกตขณะขับรถ เป็นการเช็คด้วยความรู้สึกเบื้องต้นคือเราต้องรู้จักสังเกตการกระเทือนของรถว่าปรกติหรือไม่โดยเฉพาะช่วงจังหวะตอนขึ้นสะพานหรือข้ามเนิน ซึ่งหากโช๊คปรกติผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะไม่รู้สึกถึงการกระเทือน แต่หากโช๊คมีปัญหาจะรับรู้ได้ว่ามีการกระเทือนมากกว่าปรกติไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลัง
2.รถทรงตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาการนี้จะสังเกตได้ในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูงซึ่งภาษารถจะเรียกว่า อาการร่อน คือเมื่อเราขับด้วยความเร็วสูงจะเกิดอาการลมปะทะหากโช๊คปรกติรถจะทรงตัวได้ดีและรู้สึกมั่นคงไม่มีอาการส่ายหรือร่อนแต่หากโช๊คมีปัญหาจะรู้สึกได้ว่ารถไม่นิ่ง ซึ่งค่อนข้างจะอันตรายพอสมควรเลยทีเดียว
3.อาการโคลง อาการนี้จะสังเกตได้ตอนที่เราออกตัวเคลื่อนรถซึ่งหากมีอาการหน้ารถลอยหรือเชิดผิดปรกตินั่นคือโช๊คมีอาการผิดปรกติแล้วและหากเมื่อเราเบรกรถขณะที่ความเร็วไม่สูงหรือขับมาเอื่อยๆแล้วเหยียบเบรกปรกติหากขณะเบรกรถมีอาการหน้าทิ่มนั่นคืออาการของโช๊คผิดปรกติเช่นกัน
นอกจากอาการที่สามารถสังเกตได้แล้วยังมีการเช็คสภาพโช๊คด้วยตัวเองในเบื้องต้นดังนี้
1.เช็คสภาพโช๊คโดยการกดรถยนต์ด้านหน้าแล้วปล่อย หากตัวมีอาการเด้งขึ้นลงหลายๆครั้งแสดงว่าโช๊คเรื่องมีการเสื่อมสภาพแล้ว หากโช๊คยังดีอยู่เมื่อได้รับกดจะยุบตัวและคืนตัวเป็นระดับปกติทันที จะไม่มีการเด้งขึ้นลงหลายครั้ง
2. มุดใต้ท้องรถเพื่อตรวจรอยรั่ว ของน้ำมันบริเวณซีลโช๊ค หากพบว่ามีคราบน้ำมันเปรอะเปื้อนบริเวณที่แกนโช๊แสดงว่ามีการรั่วซึมเกิดขึ้นต้องเข้าอู่เพื่อเช็คอาการทันที
3. สังเกตดูหากโช๊คผิดรูปทรง อาทิเช่น ตัวโช๊อัพมีรอยบุบหรือพบว่า มีการบิดเบี้ยวของกระบอกโช๊ค หรือแกนโช๊คมีอาการคดงอก็ควรเปลี่ยนทันที
4. หมั่นตรวจดูดอกยาง หากพบว่าหน้ายางสึกไม่เรียบ และหน้ายางมีลักษณะสึกเป็นบั้งๆ หรือลองเอามือลูบหน้ายางด้านหนึ่งเรียบ แต่ถ้าลูบย้อนกลับจะรู้สึกสะดุดนั่นก็คืออาการที่บ่งชี้ได้ว่าโช๊คมีปัญหาแล้ว
5. เช็คสภาพโช๊คหลังจากจอดรถ และดับเครื่องแล้ว ให้ใช้มือสอดเข้าไปสัมผัสที่กระบอกโช๊ค หากพบว่ากระบอกโช๊คมีความร้อน นั่นคืออาการปรกติและยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่หากมีอุณหภูมิปกติคือไม่ร้อน ให้สงสัยได้เลยแสดงว่าโช๊คทำงานผิดปรกติ เพราะตามหลักการทำงานนั้นในกรเบอกโช๊คจะมีความหนืดของน้ำมัน
เพื่อสร้างแรงเสียดทานควบคุมคอยล์สปริงเพื่อป้องกันไม่ให้รถเด้งมากจึงเกิดความร้อน จากที่กล่าวมาทั้งหมดเราทำได้ด้วยตัวเองเพื่อนๆลองเช็คกันดูนะว่าโช๊ครถเรายังปรกติอยู่ไหมหากไม่ปรกติแนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า